.jpg)
สวัสดีครับวันนี้ผมเพิ่งจะทำบล็อกนี้ขึ้นมาก็เพื่อจะได้มาพูดคุยสนทนาบอกเล่าอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมบล๊อคนี้ ที่ผมตั้งชื่อบล็อกว่า Coffee94buzz นะท่านอาจจะคิดว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง กาแฟ หรือธุรกิจกาแฟ ก็ใช้ครับแต่ไม่เน้นด้านกาแฟอย่างเดียว แต่อันจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราว และสาระต่างบ้าง ก็คงเปรียบเสมื่อนผมนั่งจิบกาแฟแล้วมานั่งสนทนาบอกเล่าเรื่องต่างๆ ให้ท่านได้รับรู้กันนะครับ ที่พร่ำพูดมาซะยืดยาว หรือบ่นไว้พอสมควรแล้วนะ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ ทางที่ดีเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เมื่อตั้งชื่อมาทางด้านของ กาแฟแล้วเรามาเริ่มต้นรับรู้สาระเกี่ยวกับกาแฟกันสักหน่อยดีกว่านะ เอางั้นเริ่มต้นที่เมล็ดกาแฟก่อนดีกว่านะครับ
ในปัจจุบันนี้เราจะพบเห็นได้ว่า กาแฟนี้จะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำเรามากขึ้น ดังจะเห็นได้จากร้านกาแฟที่มีอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเดินตามถนน ตามตรอก ซอกซอย หรือแม้กระทั่งตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปที่เราได้พบได้เห็น หรือบางที่บางท่านอาจจะไปได้สัมผัสกับบรรยากาศ หรือดื่มดำกับรสกาแฟตามร้านกาแฟดังอย่างเช่น Starbucks, World Coffee,94 Cofffee หรือจะตามร้านกาแฟไทยตามปั๊มน้ำมัน หรือตามแหล่งชุมชนต่าง แม้แต่แผงขายกาแฟข้างทางเดินก็ตาม ก็คงจะแล้วแต่รสนิยมความชอบของแต่ละทันละครับ และช่วงนี้นะเป็นช่วงที่อากาศกำลังเริ่มเย็นสบายมาบ้างแบบนี้ บางท่านก็กำลังนึกถึงกาแฟร้อนๆสักแก้วมาช่วยคลายหนาวให้สบายใจ หรืออบอุ่นกายขึ้นบ้าง เอาละครับเรามาว่ากันเกี่ยวกับเจ้าคำว่า กาแฟคำนี้กันก่อนดีกว่านะครับ ว่ามันมีที่มาที่ไปพอสมควรนะ งั้นเรามาเริ่มรู้จักที่มาที่ไปของคำว่ากาแฟกันก่อนดีกว่านะ
คำว่า”กาแฟ” ชื่อทางวิชาการทางพฤกษศาสตร์นะ เขาเรียกว่า Coffee Arabica L. วงศ์ RUBICA CEAE ถ้าเป็นชื่อสามัญละก็ Arabian Coffee, Arabica coffee, Common Coffee ถ้าออกไปเป็นด้านความหมาย หรือว่าคำแปล ถ้าจาก Oxford dictionary ให้ความหมายว่า Coffee :noun The roasted seeds (coffee bean) of a tropical bush. A power made from them. ถ้าเอาทางด้านภาษาไทยก็ต้องนี้เลยครับ จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ. 2542 เขาให้ความหมายว่า กาแฟ เป็น นาม เป็นชื่อไม้พุ่มหลายขนาด ในสกุล coffee วงศ์ Rubiaceqe ครับผม กาแฟเป็นพืชมาจากแถบทวีปแอฟฟริกา ใช้ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ เม็ดแก่คั่วแล้วบด ใช้สำหรับชงเป็นเครื่องดื่ม ในเม็ดกาแฟนะยังมีสารเคมีอยู่ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า คาเฟอีน เป็นไงครับที่มาทีไปของคำว่า กาแฟนะพอจะทำเราได้ความรู้ หรือปวดหัวเพิ่ม หรือเปล่าเอาเป็นว่าเรารู้ไว้ใช้ว่าใส่บ่าแบกหามดีกว่านะครับ เมื่อเรารู้ความหมายของเจ้าคำว่า กาแฟแล้ว ที่นี้เรามารู้จักว่าในเจ้าเม็ดกาแฟ กลมๆรีๆ ออกสีน้ำตาลไหม้นี้นะมันมีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้างดีกว่านะ
ว่ากันว่ากาแฟเป็นสารที่ให้สารออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท(Psychotropic Plants) เอ้แล้วเราจะพบสารเหล่านี้ได้ที่ไหนในต้นกาแฟกันได้ละ เอาเริ่มที่ใบกาแฟก่อน ใบกาแฟนะจะมีคาเฟอีน อยู่ประมาณนะ 1-1.25 % แล้วก็ที่เปลือกผลชั้นนอกนะจะมีคาเฟอีน, กรด Mallice, Mannite และน้ำตาล แต่ถ้าในเมล็ดละก็จะมี คาเฟอีน 0.72-2.43%, กรด Gallic, กรด Citric, โปรตีน, กลูโคส, กรด Coffee-lannic และก็มีน้ำมันหอมละเหยต่างๆ
ที่นี้เรามาลองดูสรรพคุณทางยากันบ้างนะ ใช้ในการกระตุ่นระบบประสาทส่วนกลาง แก้ง่วงนอน ในบ้างคนนะอาจจะทำให้ถึงกับนอนไม่หลับได้ กระตุ่นระบบหายใจ ช่วยการทำงานของกระเพาะอาหารและไต ขับปัสสาวะ ช่วยในการย่อยอาหาร และในระดับความเข้มข้นหนึ่ง ๆ ยังจะสามารถช่วยล้างฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ได้ครับเอาละครับได้อะไรจากเจ้ากาแฟพอสมควรแล้วละครับ
ที่นี้ผมคิดนะว่ากันทุกท่านอาจจะรู้ หรือยังไม่รู้ความหมาย เวลาที่เขาพูดจาสนทนาภาษากาแฟนะ บ้างที่เราอาจจะได้ยินศัพท์แสงแปลกๆบ่อยๆ แท้ที่จริงแล้วนะมันมีความอะไรบ้างนะ เอาละมาว่าเริ่มกันที่คำว่า Body : เนื้อกาแฟ,
Aroma : กลิ่นหอมระเหยของกาแฟ ที่เราจะได้ยินกันบ่อยๆ ก็มี กลิ่น floral, fruity, chocolaty, caramelly
Roast : การคั่วกาแฟ ที่จะมีความเข้มข้นตั้งแต่ Right roast, Mediun roast,Dark roast, Darkest roast.
Bland : รสจัดของกาแฟ เพราะจะถูกเก็บเกี่ยวตอนที่ยังไม่แก่เต็มที่
Acidity : รสเปรี้ยวของกาแฟที่จะไม่เหมื่อนรสเปรียวของมะนาว หรือผลไม้อื่นๆ คือเปรี้ยวแบบเฉพาะของกาแฟเท่านั้น
Strong : ดีกรีความเข้มของรสชาติของกาแฟ
Tangy : รสเปรี้ยวออกแหลมของกาแฟ
Shot : ปริมาณของกาแฟ 1 shot = 2.5 onz. ออนซ์
Latte’ art : ศิลปะของการสร้างสรรค์ฟองนม
Barista : ผู้ชงกาแฟ หรือนักชงกาแฟ
ครับก็เอาเพียงแค่พอรู้บ้างก็พอนะครับ เอาไว้เผื่อได้ยินเขาสนทนาพาทีกันเวลาที่เราจิบกับเพื่อนฝูง หรือกับคนสนิทกัน ก็คงจะได้สัมผัสในกลิ่นไอของรสกาแฟ และรวมทั้งสาระเพิ่มมากขึ้นอีกครับ วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับเดี๋ยวคราวต่อไปจะมาบอกเล่าต่อเรื่องกาแฟนะครับ
No comments:
Post a Comment